เป็นฉากจบที่สุดแสนชื่นมื่นในสายตาเหล่าพลพรรคเรด อาร์มี่ ซะเหลือเกิน กับหนังชีวิตเรื่องยาว “เบิร์บ…ป๋ารักเอ็งว่ะ” เมื่อช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่องปรากฏร่าง “ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ” นั่งขนาบทั้งสองข้างด้วย “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” และ “เดวิด กิลล์” โดยมีสัญญาที่ผ่านการลงนามของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยวางตระหง่านอยู่ตรงหน้า ก่อนศูนย์หน้าสายเลือดบัลแกเรียจะสลัดเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าสุดหรูออก เปลี่ยนเป็นเสื้อยูนิฟอร์มสีแดงสดที่ประดับประดาด้วยตราปีศาจแดงบนหน้าอกข้างซ้าย โดยมีรอยยิ้มเปื้อนหน้า แล้วบทเพลงสุดคลาสสิกก็ถูกบรรเลงขึ้น “รอคอยเธอมาแสนนาน ทรมานวิญาณหนักหนา ….. ให้เราได้มาเจอะเจอ ฉันและเธอร่วมสุขสมดังรอคอย” พร้อมกับรายชื่อนักแสดงทั้งหมดในเรื่องนี้จะค่อยๆ เลื่อนจากล่างขึ้นบน ปิดฉากภาพยนตร์ทุนสร้างกว่า 30 ล้านปอนด์อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากต้องถ่างตารอฉากประทับใจนี้มาจนกระทั้งฟ้าสว่าง
เดิมทีหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้น่าจะปิดกล้องตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมแล้ว เมื่อตัวเอกของเรื่องอย่าง “เบอร์บาตอฟ” กระหน่ำซัดคู่แข่งรายทางไปถึง 17 เม็ด เมื่อรวมกับจำนวนของปีก่อนก็ครบ 40 ประตูพอดีไม่ขาดไม่เกิน ร้อนถึง “ป๋าเฟอร์กี้” ต้องเหลียวกลับมาให้ความสนใจและแสดงเจตจำนง “ว้อนเต็ด” อีกครั้ง หลังเคยเป็นแคนดิเดทลำดับต้นๆ ในการเสริมทัพเมื่อต้นซีซั่น ก่อนจะเป็น “เตเบซ” ที่เบียดเข้าวินไปได้ในท้ายที่สุด แต่แล้วแพลนโครงการ “สายใยรักจากป๋าสู่เบิร์บ” ก็มีอันต้องพับโปรเจ็คลงกลางครัน เมื่อพระเอกของเรื่องเกิดอาการโชว์แมน ยืนยันยังพร้อมแสดงความจงรักภักดี และอยู่ช่วยต้นสังกัดต่อไป
แล้วศูนย์หน้าบัลแกเรียน ก็แสดงออกอย่างที่ลั่นวาจาไว้ทันที เมื่อไก่เดือยทองโคจรมาปะทะปีศาจแดงในนัดแรกหลังตลาดนักเตะรอบ 2 ปิดตัวลง ด้วยการแหยงเกือกจิ้มบอลที่ปัดออกมาจาก “น้าซาร์” เป็นประตูขึ้นนำให้เจ้าถิ่น ก่อนที่ “เตฟ” จะฮาล์ฟวอลเล่ย์ช่วยปีศาจโกงความตายได้สำเร็จในลมหายใจเฮือกสุดท้าย ใครจะไปรู้ เจ้าของประตูขึ้นนำในเกมนี้ อาจเข้าไปนั่งอยู่เต็ม 4 ห้องหัวใจ คุณป๋า แล้วก็ได้
โดยความภักดีของอดีตนักเตะห้างขายยา ก็ผลิดอกออกผลเป็น “แชมป์คาร์ลิ่ง คัพ” หลัง ไก่เมืองหลวง ห่างหายจากความสำเร็จใดๆ มาร่วม 9 ปีเต็ม แถมยังช่วยสังหารจุดโทษสำคัญ ตีเสมออริร่วมกรุงได้อีกด้วย ถือเป็นแชมป์แรกของเจ้าตัว หลังจากพก “ทริปเปิลช้ำ” มาจากเลเวอร์คูเซ่น
แต่แล้วจุดหักมุมสำคัญของภาพยนตร์เรียลลิตี้เรื่องนี้ก็มาถึง เมื่อแชมป์ที่บรรดาสาวกไก่ต่างกะต๊ากรับขวัญกันอย่างครึกครื้น เหมือนจะเป็นปลายทางที่ไก่จะบินไปได้ถึง แถมการจบซีซั่นด้วยอันดับ 11 ทั้งที่เพิ่งครอง “ท็อปไฟว์” มาเมื่อปีกลาย ก็ช่วยตอกย้ำซ้ำเติมเหตุผลข้างต้นเข้าไปใหญ่ ยิ่งงานเปิดตัวยูนิฟอร์มใหม่แกะกล่องไร้วี่แววศูนย์หน้าตัวดาวซัลโวประจำทีมร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ จึงเป็นโอกาสอันดีให้ ป๋าอเล็กซ์ หยิบยกโครงการสายใยรักกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง และดูท่าครั้งนี้จะได้รับการตอบสนองอย่างดีจากคู่กรณีเสียด้วย
ขึ้นชื่อว่าหนังฟอร์มยักษ์ทั้งที จะให้จบลงแบบง่ายๆ ก็คงกลายเป็นหนังตลาดดาดๆ ไปในบัดดล ตัวละครลับอย่าง “ดาเนี่ยล เลวี่” จึงมีโอกาสออกมาโลดแล่นอย่างมีสีสันในบทบาท “คุณพ่อจอมเฮี้ยบ” ที่ออกอาการหวงก้างอย่างออกหน้าออกตา พร้อมสรรพไปด้วยแผนการต่างๆ นานาที่จะรั้งยอดดวงใจให้อยู่ในการครอบครองของตนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง “ค่าสินสอด” มูลค่า 30 ล้าน แจ้งความในข้อหาลักลอบเป็นชู้ทางใจ หรือแม้แต่การจับคลุมถุงชนกับเด็กต่างชาติด้วยสินสอดแบบลดกระหน่ำ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สร้างความสะทกสะท้านให้กับนายหัวแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลยแม้แต่น้อย กลับยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าคว้าเป้าหมายมาเชยชมต่อไป
เรื่องราวยิ่งเข้มข้นไปอีกเมื่อ เบอร์บาตอฟ แสดงอาการกระสันย้ายซบตักปีศาจแดงเต็มแก่ ด้วยการบรรจงเซ็นชื่อตัวเองบนเสื้อสุดปรารถนา ประหนึ่งเซ็นจดทะเบียนก็ไม่ปาน เล่นเอาฝั่งผู้ปกครองถึงกับควันออกหู สั่งหักค่าขนมตลอดทั้งสัปดาห์ และทิ้งให้ลูกคนโปรดติดสนับก้นอยู่ข้างสนาม จนนำไปสู่การเจรจาสู่ขอของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ณ เมืองน้ำหอม แต่การเจรจาก็ไม่อาจคืนหน้าไปไหนได้ไกล เมื่อช่องว่างระหว่าง 25 กับ 30 ยังไม่สามารถถมได้เต็ม
ความพยายามของฝ่ายอยากได้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับความพยายามของฝ่ายอยากรั้ง และแล้วก็ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มคลี่คลายลง เมื่อชื่อของ “แคมป์เบลล์” ถูกนำมาโยงในการถมช่องว่าง 5 ล้านปอนด์ให้เต็ม ซึ่งก็ดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้สวย หากไม่มีองค์กรลับในนาม “อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ ดีเวล๊อปเมนต์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์” ภายใต้การบัญชาของ “ซูไลมาน อัล-ฟาฮิม” โผล่ขึ้นมาซะก่อน
หลังจาก อัล-ฟาฮิม ส่งกองกำลังเอดียูจี ยกพลขึ้นบกเข้ายึดบ้านใกล้เรือนเคียงของปีศาจแดงได้เพียงชั่วข้ามคืน ก็ถึงกับประกาศศึกหมายตีท้ายครัวเจ้าถิ่นเดิมทันที ด้วยพละกำลังการฟาดหัวมูลค่า 34 ล้านปอนด์ ซึ่งผู้ปกครอง น้องเบิร์บ ก็หน้ามืดตอบรับทันควัน ทำเอาสถานการณ์สายใยรักเข้าขั้นวิกฤตทันที!!
แต่…แต่นี่หาใช่สิ่งใหม่สำหรับยอดกุนซือที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน การขับเคี่ยวแย่งชิงนักเตะที่หมายตาหาใช่ครั้งแรกที่เขาต้องประสบพบเจอ ป๋าเฟอร์กี้ เริ่มเดินเกมอย่างรวดเร็วด้วยการสวมวิญญาณพนักงานขับรถประจำสโมสร บึ่งราชรถไปเกยใส่ เบิร์บ ถึงหน้าสนามบิน ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระดับผู้จัดการทีมลงมาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เหมือนที่มันเคยเกิดลักษณะนี้มาแล้วเมื่อ 21 ปีก่อน ครั้งที่สวมวิญญาณเซลล์แมน เพียรเคาะประตูหว่านล้อมพร้อมแนะนำข้อเสนอดีๆ มากมายให้กับ “ด.ช.ไรอัน กิ๊กซ์” และที่เหมือนกันอีกอย่างก็คือ ทั้งสองกรณีล้วนแต่มีอริร่วมเมืองเป็นคู่แข่งทั้งสิ้น
ด้วยใจสมัครรักใคร่เป็นทุนเดิม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เบิร์บ จะก้าวขึ้นรถของ เซอร์ อเล็กซ์ มุ่งหน้าสู่ “ศูนย์ฝึกแคร์ริงตัน” อย่างไม่ลังเล ก่อนจะเข้ารับการตรวจร่างกายที่ “โรงพยาบาลบริดจ์วอเตอร์” ในเวลาต่อมา จนกระทั้งเข้าสู่ฉากไคลแม็กซ์ข้างต้นในที่สุด ด้วยข้อเสนอมูลค่า 30.75 ล้านปอนด์ โดยมี “แคมป์เบลล์” รับหน้าที่เป็นองค์ประกันไวท์ ฮาร์ท เลน ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดทั้งปวงไร้การกล้ำกลายจากเรือใบไม่ว่าลำไหนทั้งสิ้น
“เบิร์บ…ป๋ารักเอ็งว่ะ” จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง และพร้อมเดินกล้องหนังภาคต่อเรื่องใหม่ทันทีกับ “ลองของ 2” หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในภาคแรก จากนักแสดงนำหน้าใหม่ “คาร์ลอส เตเบซ” ซึ่งคว้ารางวัลใหญ่มาครองได้ถึง 2 สถาบัน ต้องรอดูกันว่าภาคใหม่นี้จะไปไกลแค่ไหน เมื่อเจ้าของหมายเลข 9 คนใหม่ ต้องมาประชันบทบาทร่วมกับนักแสดงชั้นนำจากภาคก่อน ไม่ว่าจะเป็น “เวย์น รูนี่ย์” “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” หรือแม้แต่ เตเบซ รวมทั้งนักแสดงสมทบชื่อดังอีกมากหน้าหลายตา
“ลองของ 2” พร้อมให้ทุกสายตาพิสูจน์ผลงานแล้ว 13 กันยายน ศกนี้ ณ แอนฟิลด์ เธียเตอร์
chokechone11
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC