พอล แม็คกินเนสส์ โค้ชทีมอคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหวังว่าดาวรุ่งของสโมสรจะได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าในฤดูกาลนี้ แม้ว่าอาจต้องสลับสับเปลี่ยนนักเตะกันพอสมควร ด้วยระดับอายุที่ถูกกำหนดในเวทียุโรปก็ตาม
หลังจากที่ทีมชุดใหญ่เอาชนะคลับ บรูจจ์ไปด้วยสกอร์รวม 7-1 ทีมปีศาจแดงก็ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่า ยูธ ลีก ที่จัดขึ้นสำหรับทีมชุดยู-19 โดย นิคกี้ บัตต์ ที่เคยรับบทเป็นผู้จัดการทีมสำหรับฤดูกาล 2013/14 จะมาทำหน้าที่ตรงนี้อีกครั้ง โดยคราวนี้จะต้องพบกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, ซีเอสเคเอ มอสโกว์ และโวล์ฟสบวร์ก
จากการที่จนถึงขณะนี้มีนักเตะแค่ 4 คนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพร้อมเข้าร่วมแข่งขัน ผู้รักษาประตู – ดีน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จ ดอร์ริงตัน, กองหลัง – คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน และกองหน้า – เดมิทรี มิทเชลล์ ทำให้มีโอกาสที่จะมีนักเตะอีกหลายคนที่ถูกดันขึ้นมาจากทีมของแม็คกินเนสส์
ด้วยกฏของการแข่งขันในระดับยุโรปที่จำกัดเฉพาะนักเตะที่เกิดหลังปี 1996 ทำให้ต้องมีการปรับทัพกันพอสมควร ซึ่งแม็คกินเนสส์ก็ได้มองจุดนี้ว่าเป็นการเสริมกระดูกสำหรับเหล่านักเตะเยาวชนของทีม แทนที่จะโฟกัสไปที่ผลการแข่งขันอย่างเดียวในแต่ละสัปดาห์ของเกมบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ ลีก ยู-18
“เรามีนักเตะไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็ต้องเล่นแบบทดแทนตำแหน่งกัน ดังนั้นพวกเขาจะได้เล่นข้ามรุ่นอายุกันบ้าง” แม็คกินเนสส์อธิบาย “หวังว่าทีมชุดใหญ่จะผ่านเข้าไปเตะรอบสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ ลีก และทีมชุดยู-19 ของเราก็จะได้เข้าร่วมแข่งขัน และนั่นหมายความว่าในบางเกมของทีมชุดยู-18 เราจะใช้นักเตะที่มีอายุน้อยกว่านั้นลงสนาม”
“อย่างน้อยทุกๆ คนก็จะมีเกมให้ลงเล่น และก็จะได้รับประโยชน์จากการเตะเกมยุโรป ด้านผลการแข่งขันมันก็สำคัญเหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เหล่าดาวรุ่งที่เรียนรู้จากสิ่งที่พวกเขาได้เข้าร่วม และบางทีคุณอาจจะได้รู้ล่วงหน้าด้วยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างเมื่อก้าวขึ้นมาเล่นในระดับยู-18”
“ผมคิดว่าตลอดหลายปีที่ผมเข้ามาทำงานตรงนี้ เราเพิ่งคว้าแชมป์ลีกได้แค่ครั้งสองครั้งเท่านั้นเอง ตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้จัดการทีม เขาไม่เคยบอกให้ผมเน้นผลการแข่งขัน มันเป็นเรื่องของการพัฒนาตัวนักเตะมากกว่า เมื่อคุณก้าวขึ้นไปถึงทีมชุดสำรองและทีมชุดใหญ่ นั่นแหละถึงจะเริ่มเน้นไปที่ผลการแข่งขัน ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทีมทั้ง 2 ชุดนี้ก็กวาดแชมป์มามากมาย”
“นั่นคือปลายทางของการพัฒนานักเตะ แต่มันไม่มีความกดดันว่าต้องคว้าแชมป์เลยในระดับอคาเดมี่ แน่นอนว่าถ้าทำได้มันก็ดี โดยฤดูกาลที่ผ่านมาเราจบอันดับที่ 4 มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปลูกฝังให้ทีมกระหายชัยชนะตลอดเวลา อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือการที่ให้พวกเขาได้เล่นในวิถีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างหาก”
SiR KeaNo