หลังจากอึดอัดมานานเกือบชั่วโมง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-0 เหนือควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ต้องขอบคุณประตูจาก มารูยาน เฟลไลนี่ และ เจมส์ วิลสัน
เกมนี้น่าจะมีประตูเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว โดยเฉพาะ ราดาเมล ฟัลเกา ที่น่าจะทำแฮตทริคได้ด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อทีมปีศาจแดงคว้าชัยชนะได้หลังจากที่แพ้กับเซาแธมป์ตัน และไม่ชนะใครในลีกมาแล้ว 3 แมตช์ ก็น่าจะถือว่าน่าพอใจแล้วสำหรับ หลุยส์ ฟาน กัล
อาการบาดเจ็บข้อเท้าของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำให้ฟัลเกาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ โดยก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งทำ 2 ประตูมาในช่วงคริสต์มาส แต่ก็ไม่มีชื่อในเกมที่พ่ายเซาแธมป์ตัน 0-1 นอกจากนี้ จอนนี่ อีแวนส์ ก็ได้ลงเล่นแทน คริส สมอลลิ่ง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงหนึ่งใน 3 ตำแหน่งจากเกมกับทีมนักบุญ โดยมี มาร์กอส โรโฮ อีกคนที่ได้ลงเล่นแทน ลุค ชอว์ ถือเป็นการลงสนามครั้งแรกของเขานับตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมเลยทีเดียว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นเกมได้ดีกว่า นาทีที่ 13 ฟัลเกาน่าจะส่งให้ทีมปีศาจแดงขึ้นนำได้เมื่อรับบอลจากการโยนมาให้อย่างสุดสวยของ ฮวน มาต้า แต่เขากลับยิงไปติดตัวผู้รักษาประตู โรเบิร์ต กรีน แถมจังหวะยิงซ้ำก็ยังไปติดบล็อคออกหลังไปอีก
คิวพีอาร์พยายามอาศัยจังหวะสวนกลับเล่นงานทีมเยือน นาทีที่ 20 บ็อบบี้ ซาโมร่า จ่ายบอลให้ ชาร์ลี ออสติน ยิงให้ ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟ ผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังมาปฏิเสธลูกยิงของออสตินอีกครั้งในนาทีที่ 31 คราวนี้ต้องพุ่งปัดแบบสุดเหยียดออกหลังไป โดยจังหวะก่อนหน้านั้น เวย์น รูนี่ย์ พยายามร้องเอาจุดโทษด้วยเมื่อถูก โจอี้ บาร์ตัน ปะทะล้มลงในกรอบเขตโทษ และครึ่งแรกก็จบลงไปแบบไร้สกอร์
ครึ่งหลังเป็นคิวพีอาร์ที่ได้โอกาสลุ้นก่อนจาก เลรอย เฟอร์ ที่ได้โขกจากลูกฟรีคิกของบาร์ตัน ขณะที่อีกฝั่งของสนาม ฟัลเกาใกล้เคียงที่จะยิงได้อีกครั้ง คราวนี้เป็นการพุ่งโขกจากการโยนมาให้ของดิ มาเรีย แต่ก็ยังไปติดเซฟของกรีนอีก
ด้วยการเล่นที่ยังไม่กระเตื้องขึ้นทำให้ฟาน กัลตัดสินใจถอดอีแวนส์ออก และส่งเอาวิลสันลงไปเล่น พร้อมปรับระบบเป็น 4-4-2 ซึ่งเป็นแผนการเล่นที่แฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพากันตะโกนตลอดครึ่งแรก จากนั้นเกมรุกก็ดูน่ากลัวขึ้นมาทันที
นาทีที่ 58 ดิ มาเรีย ซึ่งถอยลงมาต่ำกว่าเดิมโยกจังหวะหลอกให้บอลไปถึงรูนี่ย์ จากนั้นบอลก็มาถึงวาเลนเซียทางกราบขวา เขาจ่ายเข้ากรอบเขตโทษทันที และก็เป็นตัวสำรองอย่างเฟลไลนี่ที่ยิงเสยเพดานตาข่ายเข้าไป โดยกรีนทำได้เพียงปัดปลายมือเท่านั้น
เกมน่าจะปิดฉากลงในช่วง 14 นาทีก่อนหมดเวลาเมื่อวิลสันได้บอลทางฝั่งขวาก่อนผ่านเข้ากลางให้กับฟัลเกา แต่ สตีเว่น คอลเกอร์ ก็แหย่เท้าสะกิดบอลได้ก่อนที่จะมาถึงกองหน้าชาวโคลอมเบีย จากนั้นวิลสันก็ได้จังหวะครอสให้กับฟัลเกาอีก ซึ่งคราวนี้เขาก็ยังเข้าไม่ถึงบอลอีกเช่นเคย
ความเร็วของวิลสันนำมาซึ่งประตูที่ 2 ของทีมปีศาจแดงจนได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากจังหวะยิงครั้งแรกที่ไปติดเซฟ บอลยังกระดอนมาเข้าทางเขาอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็ยิงเข้าไปไม่พลาดเป็น 2-0
ถือเป็นประตูแรกสำหรับวิลสันในฤดูกาลนี้ด้วย และด้วยสกอร์นี้ก็ถือเป็นชัยชนะในลีกนัดแรกในปี 2015 สำหรับทีมปีศาจแดงเช่นกัน
สถิติ